ความหมายของหินหยก
คำว่า JADE(เจด) มาจากภาษาสเปนว่า “ Piedra de hijade ”หมายถึง “ เจ้าแห่งหินทั้งปวง”
หยก มาจากภาษาจีนแมนดารินออกเสียงว่า หยู หรือ ยู่ หมายถึง งดงามและทนทาน
ภาษาอังกฤษ ออกเสียงเป็น เจด (JADE) โดยทั่วไป หยก หมายถึงหินสีเขียวที่มีเนื้อใสถึงเกือบทึบแสง และหยกก็มีชื่อเรียกต่างๆ กัน เช่น หยกพม่า หยกอินเดีย หยกจีน หยกโมรา เป็นต้น ในทางอัญมณีศาสตร์ หยก หมายถึง หินที่ประกอบด้วยแร่เจไดต์ (Jadeite) หรือ เนไฟรต์ (Nephrite) เป็นส่วนประกอบหลัก ถ้าประกอบด้วยแร่เจไดต์ (Jadeite) เป็นหลัก เรียกว่า หยกเจไดต์ (Jadeite Jade) เป็นหยกที่หายากและมีราคาแพงกว่าหยกเนไฟรต์ ที่เป็นหยกที่มีประกอบของแร่เนไฟรต์ เป็นหลัก แต่ในการซื้อขายถือว่าหยกทั้งสองชนิดนี้เป็นหยกแท้
หยกจัดเป็นหิน เพราะไม่ได้เกิดเป็นผลึกเดี่ยว ประกอบด้วยผลึกแร่ขนาดจุลภาค(Cryptocrystalline) มารวมตัวกันแน่น เมื่อขยายดูเนื้อหยกด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็นเนื้อหยก
เจไดต์เป็นแบบมวลเม็ดอัดแน่น ส่วนเนื้อหยกเนไฟรต์เป็นแบบเส้นใยสานกันแน่น ดังนั้นหยก
เนไฟรต์จึงเหนียวกว่าหยกเจไดต์ กล่าวได้ว่า หยกแข็งกว่าหินและเหนียวกว่าเหล็ก หยกมีเนื้อไม่โปร่งใสอย่างเช่นพลอยทั่วไป แต่มีเนื้อเหนียวกว่า ไม่เปราะแตกง่ายเมื่อเทียบกับพลอยเนื้อใสที่เป็นผลึกเดี่ยว
ประเภทของหยก
หยกจริงแท้ธรรมชาติ ที่นักวิทยาศาสตร์นักวิชาการทั่วไปยอมรับมี 2 ชนิด หรือ 2 ประเภท คือ
1. หยกประเภทเจดไอท์หรือเจไดต์ ( JADEITE) มีธรรมชาติกำหนดจากแร่โซเดียมและแร่อลูมิเนียม เนื้อหยาบเป็นเส้น มีความใสความขุ่น
มาตรการหักเหแสง 1.66-1.68 ความหนาแน่น 3.25-3.35 มีความทนทานสูง เป็นเพราะการประสานตัวของผลึกเป็นไปอย่างซับซ้อนและมีความเหนียวดีมาก เชื่อกันว่ามีอายุประมาณในยุคพรีแคมเบรียน ระหว่าง 141-570 ล้านปี แล้วบางแห่งมีอายุ 37 - 140 ล้านปีก็มี หยกชนิดนี้มีรูปผลึกระบบโมโนคลีนิค หยกเจดไอท์หรือเจไดต์ส่วนมากมีหลายสี เช่น ขาวขุ่น น้ำตาล เหลือง ม่วง เทา ดำ ฟ้า น้ำเงิน มีลักษณะเป็นก้อน ๆ บางก้อนก็มีหลายสีปะปนกัน ส่วนหยกสีเขียวหายากมาก มีน้อยมาก มีปะปนอยู่ในก้อนหยกสีต่าง ๆ เช่น ในก้อนหยกสีขาวขุ่นเป็นต้น หยกเจไดต์สีเขียวที่พบเพียงเล็กน้อยนิยมนำมาเจียรนัยเป็นเครื่องประดับคือหัวแหวนสีเขียว ส่วนหยกเจดไอท์หรือเจไดต์ที่ไม่มี
|
สีเขียวปน นิยมสลักเจียรนัยเป็นกำไรหยก และนอกนั้นก็จะเจียรนัยเป็นศิลปกรรมรูปพระพุทธรูป รูปสัตว์ ผลไม้ และศิลปกรรมของใช้สวยงามต่าง ๆ หยกเจไดต์นี้ มีสีหลายสี ถึงแม้ว่ามีสีเขียวจะมีค่ามาก ในเชิงธุรกิจเครื่องประดับ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ทางวิชาการถือว่ามีคุณสมบัติเท่าเทียมกัน เป็นแร่ชนิดเดียวกัน มีความแข็ง |
เท่ากัน ไม่มีอะไรต่างกันเลย หยกเขียวชิ้นละ 5 ล้านกับหยกสีธรรมดาชิ้นละ 500 บาท ล้วนมีคุณสมบัติเท่ากันหรือเหมือนกันทุกประการ
หยกเจดไอท์หรือเจไดต์นี้ ส่วนมากพบในชายแดนพม่าติดจีนในรัฐคะฉิ่น แถบเมืองโมกอง ผาก้าน โมฮัง ในจังหวัดมิจิน่า (หรือมะยิตกินา) แนวเทือกเขา TAWMAW ในพม่า เป็นแหล่งหยกเนื้อแข็งเจไดต์ที่รู้จักกันมากที่สุด นิยมเรียกกันว่าหยกพม่า แหล่งหยกชนิดนี้ที่สำคัญรองมาคือที่ตุรกี บริเวณทิวเขามณฑลเชนสี และยูนานของจีนก็พบแหล่งหยกเจไดต์แบบเดียวกันกับของพม่า และเนื่องจากหยกเจไดต์มีหลายสีและส่วนใหญ่พบจะไม่มีสีเขียว ส่วนมากจะพบสีเทา สีหม่น สีครีมต่าง ๆ หรือมีเขียวปะปนบ้างเล็กน้อย บางก้อนก็มีสีม่วงปน เนื้อหยกชนิดนี้มีลักษณะเนื้อแบ่งออกเป็น 6 อย่าง คือ
1. เนื้อคล้ายเทียนไข
2. เนื้อแก้ว (เนื้อค่อนข้างใส แต่หายากและแพงมาก หากเป็นสีเขียวใส เขียวสดใส ราคาเป็นหลายสิบล้านขึ้นไป หากสีไม่เขียวแต่เนื้อใสก็มีราคาเป็นแสนเป็นล้านขึ้นไปเช่นกัน )
3. เนื้อคล้ายผ้าแพรของจีน
4. เนื้อมะระมัน (คล้ายเนื้อผ้าอย่างดีในราชสำนักโบราณของพม่า)
5. เนื้อครั่ง ขุ่น ๆ หยาบ ๆ
6. เนื้อไส้ฟักทอง
2. หยกประเภทเนไฟต์ เนฟไรท์ นีฟไรท์ ( NEPHRITE) มีธรรมชาติเกิดจากแร่แม็กนีเซี่ยม คัลเซี่ยม และเหล็ก หรือเป็นแร่ตระกูลแอมฟิโบล มีรูปผลึกแบบโมโนคลีนิค มีสูตรทางเคมี คือ ( Ca 2(Mg,Fe)5Si8O22(OH)2 หยกจำพวกนี้มีสีเขียวใบไม้สด ใบไม้แก่ เขียวใบไม้อมสีดำ ไปจนถึงสีจางเกือบขาว หยกชนิดนี้มีความแข็งน้อยกว่าหยกเจดไอต์(หยกพม่า) คือความแข็ง (Hardness) 6.5 น้ำหนักถ่วงจำเพาะ (Specitic Gravity) 3 มาตรการcl'sydgs (Refractive Indices) 1.60-1.63 ความหนาแน่น 2.93-3.1 หยกเนไฟรต์ปัจจุบันพบมาก ในบริติช โคลัมเบีย ใกล้อะลาสก้า ในประเทศแคนาดา มีแหล่งหยกเนื้อดีสีใบไม้สดจนถึงเขียวอมดำจำนวนมากตามบริเวณเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมขาวโพลนเกือบตลอดปี นอกจากนี้ยังพบที่ไซบีเรียประเทศรัศเซียก็มีหยกเนไฟรต์แบบเดียวกันประเทศแคนาดาเช่นกัน หยกเขียวเนไฟรต์จากรัสเซียมีชื่อเสียงรู้จักกันมานาน นอกจากนั้น ยังพบในบริเวณตะวันออกของไต้หวัน ส่วนในประเทศนิวซีแลนด์เรียกหยกชนิดนี้ว่า หินสีเขียว (Green Stone) ในประเทศออสเตรเลีย หยกจำพวกนี้มีกำหนดตามหินชื่อเมารี ในอดีตชนเผ่าเมารีใช้ทำหัวขวานและอาวุธต่าง ๆ หัวขวานโบราณที่ทำด้วยหยกชนิดนี้ได้พบในที่หลายแห่ง เช่นในประเทศเม็กซิโก กัวเตมาลา เวเนซูเอลา นิวกินี แม้ตามประเทศเหล่านี้ไม่ปรากฏมีแหล่งกำเนิดหยกก็ตาม หยกเนไฟรต์จากแคนาดามี 3 เกรด คือ เกรดเอ - เขียวใบไม้สด เกรดบี - ปานกลาง เกรดซี - เขียวดมสีดำ ออกมืด ๆ
ซื้อกับที่ร้านหมดปัญหา ซื้อไปแล้วกลัวใส่ไม่ได้ ลองทำกันดู
ครับ แถมให้ฟรีเอนยืดกับที่ร้อยเข็มให้ด้วยครับ
(เฉพาะ หินนำโชค)